และแล้วเจ้าตัวเล็กก็ออกมา

สำหรับฉันแล้ว ไม่ได้เข้านอนในรพ. ด้วยอาการเจ็บท้อง
แต่เจ็บหลังมาก ๆ มา 2-3 วัน เนื่องจากอาการปวดหลังด้านซ้าย อย่างมาก
ซึ่งแน่นอนว่า การที่เราอุ้มท้องอยู่นาน ๆ นั้น ย่อมเป็นภาระแก่หลังอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ปกติ หากได้อยู่ในท่าที่เหมาะสม เช่นการนอนพักผ่อน ก็จะบรรเทาลง
จะปวดมากเวลาเดิน หรือเวลาลุก ก้ม แต่ฉัน แค่นอนเฉย ๆ ก็ปวดจนแทบทนไม่ไหว
ลองฝืนนวด และนอนพักดู 2-3 วัน ก็ไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจไปหาหมอ
ซึ่งหมอก็ลองให้นอนพักดูอาการในรพ.

และแล้ว รุ่งเช้าตี 2 ของวันถัดไป ฉันก็เกิดอาการเจ็บท้องขึ้นมา
รอดูกระทั่งตี 4 เห็นท่าทีไม่ไหว พยาบาลเลยพาไปห้องรอคลอดทันที
และแล้วก็สรุปว่าเป็นอาการเจ็บจริง ซึ่งก็โชคดี ที่ได้นอนรพ. ในคืนนั้น
เลยไม่ต้องฉุกละหุกในการเดินทางมามากนัก ของต่าง ๆ ก็เตรียมพร้อมไว้ส่วนหนึ่งแล้ว

ฉันตั้งใจจะคลอดเอง เลยนอนทนรอทรมานอยู่ร่วม 12 ชม. เพื่อให้ปากช่องคลอดเปิด
ซึ่งตามหลักการแพทย์ คือต้องรอให้ปากช่องคลอดเปิด 10 cent ซึ่งแต่ละนาทีที่ผ่านไป
ก็จะมีอาการเจ็บท้อง และมดลูกบีบรัด ให้เจ็บ ทรมานตลอด แม้ว่าจะได้ฉีดยาแก้ปวดบรรเทา
แต่ก็ยังคงเหลืออาการเจ็บให้รู้สึกได้ถึงความทรมานเป็นอย่างมาก
คนเฝ้าลุ้น อย่างแม่ และสามี ก็ยังถึงกับน้ำตาซึม ส่วนตูนก็แทบจะเป็นลมไปเหมือนกัน
และแล้วเมื่อปากมดลูก เปิดเต็มที่ ก็ถึงเวลาต้องออกแรงเบ่งเจ้าตัวน้อยออกมา
แต่เมื่อพยายามได้ระยะหนึ่ง กลับพบว่าเจ้าตัวเล็ก อยู่ในท่านอนหงาย ซึ่งจะออกมาไม่ได้
สุดท้าย ก็เลยต้องตัดสินใจทำการผ่าตัด ซึ่งสรุปเป็นการเจ็บถึง 2 ต่อเลยทีเดียว
และแล้ว การผ่าตัดการผ่านพ้นไปด้วยดี เจ้าตัวเล็กก็ได้ออกมาลืมตาดูโลก
ด้วยน้ำหนักตัวไม่น้อยถึง 3482 กรัม ความยาว 50ซม และสภาพสมบูรณ์ดี